• ร่วมเป็นพาร์เนอร์
  • 02-0260692
  • การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่มีสเปรดต่ำ ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นักเทรดควรต้องใช้พิจารณาเพื่อสร้างผลกำไรในการเทรดมากขึ้น ซึ่งเราได้เลือก 5 โบรกเกอร์สเปรดต่ำ ที่ดีที่สุดในปี 2023

    1

    Forex4You

    มีบริการประเภทบัญชีที่หลากหลาย ซึ่งตอบสนองความต้องการของนักเทรดทุกประเภท โดยประเภทบัญชี Cent Fixed และ Classic Fixed เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่ เนื่องจากมีค่าสเปรดที่กว้างกว่า 2 pips โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์สามารถเลือกประเภทบัญชี Cent Pro และ Classic Pro ซึ่งให้สเปรดที่แคบกว่าตั้งแต่ 0.1 pip พร้อมค่าคอมมิชชั่น $10 cents และ $8 cents ต่อ lot ประเภทบัญชีมาตรฐานแบบคลาสสิก เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักเทรดที่มองหาสเปรดที่แคบกว่า 0.9 pip ถือว่าเป็นโบรกเกอร์ที่น่าสนใจสำหรับนักเทรดที่กำลังมองหาสเปรดต่ำ

    2

    XM

    มีบริการทั้ง Micro Account, Standard Account, XM Ultra Low Account และ Shares Account การคิดค่าธรรมเนียมการเทรด สำหรับ 3 ประเภทแรกจะรวมไปที่สเปรด ไม่มีการคิดค่าคอมมิชชั่นแยกแบบก่อน ยกเว้นบัญชี Shares Account ที่ยังมีการคิดค่าคอมมิชชั่นแยกจากค่าสเปรดอยู่ รวมถึงให้บริการบัญชี Zero Spread อีกด้วย

    3

    Weltrade

    อีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่น่าสนใจ โดยบัญชี Pro ของโบรกเกอร์นี้มีบริการ Swap Free และค่าสเปรดที่ต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 9.80 pip

    4

    Tickmill

    เป็นโบรกเกอร์ใหม่ แต่มีค่าสเปรดเฉลี่ยที่น่าสนใจ อยู่ที่ 8.00 pip โดยคู่สกุลเงิน EURUSD, USDCHF และ NZDUSD มีค่าสเปรดต่ำที่สุดในบรรดาบัญชีทั้งหมด

    5

    IC Markets

    โบรกเกอร์นี้ค่าสเปรดเฉลี่ยที่อยู่ 10.50 pips และมีค่า Swap ที่ดี เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบถือสถานะข้ามวัน โดยเฉพาะฝั่งคู่สกุลเงินที่มีค่า Swap เป็นบวก

    จะมีวิธีเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์สเปรดต่ำในปี 2023 ได้อย่างไร ?

    1

    ศึกษาและวิเคราะห์จากค่าสเปรด

    ศึกษาและเปรียบเทียบค่าสเปรดจากโบรกเกอร์ต่าง ๆ เพราะถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายเมื่อนักเทรดต้องการจะทำการเปิดและปิดสถานะการเทรด

    2

    ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์

    เป็นอีกสิ่งที่สำคัญมาก คือ การดูความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ นักเทรดเองสามารถเข้าไปตรวจสอบประวัติบริษัท และอ่านรีวิวต่าง ๆ เกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งจากเว็บไซต์ต่าง ๆ และจากลูกค้าผู้ใช้จริง

    3

    ศึกษาเงื่อนไขการเทรด

    อ่านและศึกษาอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับเงื่อนไขต่าง ๆ ของการเทรดจากโบรกเกอร์ เช่น ขนาดของการเทรด และค่าคอมมิชชั่น เป็นต้น

    4

    ดูประสบการณ์ของการให้บริการ

    ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีประสบการณ์ในการให้บริการการเทรดมานานมากพอ ที่นักเทรดจะสามารถไว้วางใจให้บริการและขอคำแนะนำได้หรือไม่

    5

    ตรวจเช็คส่วนลดและโปรโมชั่นต่าง ๆ

    ลองเช็คส่วนลดและโปรโมชั่นต่าง ๆ ของโบรกเกอร์ เพราะในส่วนนี้จะช่วยนักเทรดลดต้นทุนในการเทรดได้

    เกณฑ์การพิจารณาเลือกโบรกเกอร์สเปรดต่ำ

    นักเทรดสามารถจะพิจารณาจาก 3 ปัจจัยที่มีผลต่อต้นทุนการเทรด ดังนี้

    1

    สเปรด (Spread)

    2

    ค่าคอมมิชชั่น (Commission)

    3

    ค่าธรรมเนียมการถือสถานะข้ามคืน (Swap)

    ตัวอย่างการพิจารณา สมมุตินักเทรดเทรดกับ Forex4You และเลือกบัญชีที่มีการเก็บค่าคอมมิชชั่น นักเทรดจะนำมาบวกเข้าไปรวมกับสเปรด เช่น เก็บค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 2 USD ต่อ lot ซึ่งค่าสเปรดของบัญชีสมมุติให้เท่ากับ 0 ก็จะนำมารวมกัน และนักเทรดก็จะได้ค่าสเปรดที่เป็นต้นทุนการเทรด เท่ากับ 2 นั่นเอง

    คำถามที่พบบ่อย

    วิธีเลือกประเภทบัญชีฟอเร็กซ์ ?
    เอกสารใดบ้างที่ต้องใช้สำหรับการเปิดบัญชีฟอเร็กซ์ในประเทศไทย ?
    วิธีที่ใช้เลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่เหมาะสมสำหรับตัวคุณ ?
    มีโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีมีชื่อเสียง น่าเชื่อถือในประเทศไทยหรือไม่ ?

    กระทู้ที่เกี่ยวข้อง