• ร่วมเป็นพาร์เนอร์
  • 02-0260692
  • ภาพรวม

    การเทรดรายวันหรือเรียกอีกชื่อว่าเดย์เทรด มีข้อดีมากมาย ซึ่งข้อดีที่ชัดเจนที่สุดคือการเทรดที่จะไม่ถูกกระทบด้วยข่าวสำคัญต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินได้ และอีกข้อดีหนึ่งข้อคือความสามารถที่จะปกป้องสถานะซื้อขายผ่านคำสั่งการตัดขาดทุน (Stop Loss)ได้ง่าย ซึ่งคำสั่งตัดขาดทุนเสมือนตัวช่วยให้เราปิดสถานะการเทรดเมื่อราคาตลาดเปลี่ยนไปถึงระดับหนึ่ง นอกจากเหตุผลนี้แล้วการเทรดรายวันยังเป็นโอกาสให้นักเทรดได้พัฒนาการเทรดและฝึกทักษะการวิเคราะห์อีกด้วย

    อย่างไรก็ตามการเทรดรายวันก็มีข้อควรระวังบางประการ เช่น ยิ่งเทรดมากเท่าไหร่นั่นหมายถึงค่าคอมมิชชั่นที่จะเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งอาจจะกระทบต่อสัดส่วนต่อการทำกำไรของคุณ ซึ่งอาจทำให้ไม่เพียงพอที่ต่อสถานะการทรดของคุณในความสามารถการทำกำไรได้ และนี่ถึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักเทรดควรใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายเพื่อช่วยการเทรดของพวกเขา และนี่คือบางส่วนของกลยุทธ์การเทรดได้รวบรวมไว้แล้วที่นี่

    1. การเทรดจากการเก็งกำไรส่วนต่างราคา

    การเก็งกำไรจากส่วนต่างราคา (Scalping) ถือเป็นกลยุทธ์ที่นักเทรดรายวันมักใช้ทำกำไร จากการเปลี่ยนแปลงของคู่เงินเพียงเล็กน้อย แต่พวกเขาจะใช้ขนาดของสถานะการซื้อขายที่ใหญ่ขึ้นเพื่อทำกำไรได้ในระยะเวลาอันสั้น

    สิ่งที่ต้องต้องระวังการเก็งกำไรจากส่วนต่างราคานั้นถือเป็นกลยุทธ์ที่ต้องอาศัยความเร็ว จำเป็นต้องหาช่วงเวลาที่ใช่และการตัดสินใจที่รวดเร็ว นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์นี้ควรจะเลือกไทม์เฟรมหรือช่วงระยะเวลาที่แคบลงของกราฟราคา เช่น แท่งเทียนหนึ่งนาที และห้านาที เพื่อจะได้คาดการณ์และทำการตัดสินใจการเทรดได้อย่างถูกต้อง

    2. การเทรดตามการเคลื่อนไหวในกรอบราคา

    การเทรดตามการเคลื่อนไหวในกรอบราคาถือเป็นการเทรดตามช่องของราคา ช่องราคาจะถูกกำหนดด้วยแนวรับและแนวต้านที่การเคลื่อนที่ของราคาไม่ขึ้นไปเหนือเส้นแนวต้านหรือ ตกลงต่ำกว่าเส้นแนวรับช่องราคานี้ และจะสอดคล้องไปกับการตีเส้นเทรนด์ไลน์อีกด้วย

    เป้าหมายในการซื้อที่จุดต่ำสุดของกรอบราคา (เทรนด์ไลน์ด้านล่าง) และขายที่จุดสูงสุดของกรอบราคา (เทรนด์ไลน์ด้านบน) เพื่อทำกำไร นักเทรดบ่อยครั้งมักจะตั้งจุดตัดขาดทุนเหนือเส้นเทรนด์ไลน์จุดต่ำสุดและจุดบนสุด เพื่อป้องกันการขาดทุนมากขึ้นจากการที่ราคาเคลื่อนที่ทะลุออกไปหรือมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับคู่เงินนั้น ๆ

    3. การเทรดด้วยโปรแกรม

    การเทรดด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (High-frequency trading) ถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่อาศัยวิวัฒนาการและความรวดเร็วของโปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยเทรด โดยโปรแกรมเหล่านี้สามารถที่จะช่วยวิเคราะห์ตลาดและออกคำสั่งตามสถานการณ์ของตลาดได้รวดเร็ว ภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้น ซึ่งสามารถทำกำไรมากมายให้กับนักเทรด โดยเฉพาะในสภาวะที่ตลาดฟอเร็กซ์เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

    อย่างไรก็ตามการเทรดแบบนี้ก็ยังเป็นประเด็นที่ถกเถียงอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้อัลกอริธึมเข้ามาช่วยในการตัดสินใจการเทรด โดยปราศจากการการตัดสินใจของมนุษย์และการตอบสนอง ซึ่งสร้างความไม่เข้าใจกับนักเทรดที่ไม่สามารถเข้าถึงโปรแกรมเหล่านี้ได้

    4. การเทรดตามข่าว

    การเทรดตามข่าวสำคัญถือเป็นกลยุทธ์หลักที่นักเทรดรายวันมักใช้ โดยนักเทรดจะตัดสินใจอ้างอิงตามการประกาศข่าวทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ รวมไปถึงรายงานทางเศรษฐกิจ จนไปถึงเหตุการณ์ระดับโลกต่าง ๆ ที่จะส่งผลต่อคู่เงิน หุ้น พันธบัตร และความมั่นคงอื่น ๆ โดยนักเทรดจำเป็นจะต้องคอยดูความรู้สึกโดยรวมของผู้คนก่อนและหลังการประกาศข่าวนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจการเทรด

    อย่าลืมว่านักเทรดที่เทรดตามข่าวมักจะถือสถานะเป็นระยะเวลาเพียงสั้น ๆ เท่านั้น เพราะว่าผลกระทบของข่าวและเหตุการณ์ต่าง ๆ นั่นมักจะกระทบต่อตลาดเป็นระยะเวลาเพียงสั้น ๆ

    5. การเทรดตามเทรนด์

    โดยการเทรดแบบนี้จะคอยตามการเคลื่อนไหวของหุ้นหรือปัจจัยความมั่นคงอื่น ๆ ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือที่ง่ายและนิยมใช้สำหรับนักเทรดรายวันมือใหม่ โดยสิ่งที่พวกเขาทำจะซื้อเมื่อราคาขึ้น และขายเมื่อราคาตกลง ซึ่งจะอ้างอิงถึงกับการคาดการณ์ ว่าราคาจะยังคงขึ้นและลงภายในระยะเวลาที่คาดการณ์ไว้อยู่

    นักเทรดที่เทรดตามเทรนด์นี้ควรมีประสบการณ์และทักษะมาระยะหนึ่งแล้ว เพื่อที่จะสามารถหาเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นก่อนได้ และรู้ว่าเมื่อใดที่ควรจะขายก่อนที่เทรนด์จะเริ่มสวนทาง

    6. การเทรดจากการเปิดสถานะตรงข้าม

    การเทรดจากการเปิดสถานะตรงข้ามถือเป็นรูปแบบการเทรดที่นักเทรดมักจะเปิดสถานะตรงข้าม กับเทรนด์ของตลาด พูดง่าย ๆ คือ นักเทรดจะขายตอนที่คนอื่นกำลังซื้อ และซื้อเมื่อคนอื่นกำลังขาย ซึ่งอ้างอิงจากตามความเชื่อที่ว่าการซื้อและการขายแบบนี้จะเกิดขึ้นเพราะความกลัวและความโลภ ซึ่งจะทำให้ราคาตลาดอาจถูกหรือแพงเกินกว่าราคาที่ควรจะเป็นได้

    การเทรดจากการเปิดสถานะตรงข้ามนี้มักจะมีความรู้ความเข้าใจในมูลค่าของค่าเงินนั้น ๆ ซึ่งอาจจะต้องอาศัยทั้งเวลาในการศึกษาเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์มากมาย จึงทำให้พวกเขาเห็นโอกาสในค่าเงินเหล่านั้นที่ถูกขายต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ขณะเดียวกันการทำเช่นนี้อาจทำกำไรได้ดี แต่ก็อาจจะต้องแบกรับความเสี่ยงและอาจใช้เวลามากกว่าความสามารถในการทำกำไร

    การเทรดฟอเร็กซ์มีความเสี่ยงต่อเงินลงทุนของคุณ โปรดอ่านและทำความเข้าใจกับข้อมูลความเสี่ยงของเราก่อน

    กระทู้ที่เกี่ยวข้อง