• ร่วมเป็นพาร์เนอร์
  • 02-0260692
  • เบื่อกับเงินบัญชีในธนาคารที่ไม่เคยเติบโตไปไหนใช่ไหม ? นอกจากจะต้องเปลี่ยนงาน จริง ๆ แล้วยังมีอีกหลากหลายวิธีที่จะเพิ่มรายได้ของคุณได้

    นี่คือเคล็ดลับ 5 ข้อจากมหาเศรษฐี ที่มาเผยว่าพวกเขาทำให้เงินเติบโตได้อย่างไร :

    แบ่งเงินรายเดือนของคุณ

    มหาเศรษฐีชาวฮ่องกงอย่าง Li Ka-Shing ได้กล่าวว่าเขาเชื่อใน แพลน 5 ปี สำหรับคนทำงานที่ต้องการทำให้เงินเติบโต โดยคุณจะต้องแบ่งเงินเดือนที่คุณได้ออกเป็น 5 ส่วนด้วยกัน

    ส่วนแรก 30% ของรายรับคุณจะแบ่งไว้เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่วนนี้เป็นก้อนที่ใหญ่ที่สุด แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องกินอยู่แบบสิ้นเปลือง โดย คำแนะนำของ Li คือกินอาหารง่าย ๆ ให้ครบทุกมื้อ ไม่ต้องหวือหวาสิ้นเปลืองเกินไป

    ส่วนที่สอง แบ่งออกมา 20% ของรายได้ โดยใช้ในการสร้างคอนเนคชั่นและสร้างมิตรภาพกับเพื่อน ๆ เช่น ใช้เงินส่วนนี้ในการเลี้ยงสังสรรค์ ซึ่งเขาอาจจะช่วยเหลือในอาชีพของคุณ หรืออาจจะช่วยเพิ่มความร่ำรวยให้ก็เป็นได้

    Li เชื่อว่าหากคุณทำแบบนี้ทุกเดือน เครือข่ายของคุณจะขยายไปเรื่อย ๆ และวันหนึ่งพวกเขาจะสร้างประโยชน์ให้กับคุณในอนาคต

    ในส่วนที่สาม แบ่ง 15% ไปสำหรับการศึกษา คือ อ่านและเรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ เข้าเรียนคอร์สต่าง ๆ ไม่เพียงแต่คุณจะเพิ่มพูนความรู้เท่านั้น แต่ยังจะทำให้คุณพบปะผู้คนอื่น ๆ ระหว่างการเรียนรู้อีกด้วย

    สำหรับส่วนที่สี่ ไว้ใช้ในการท่องเที่ยว โดยแบ่ง 10% จากรายได้ของคุณ คุณสามารถใช้ส่วนนี้ในการท่องเที่ยวต่างประเทศ ลองไปเที่ยวประเทศใหม่ ๆ ปีละครั้ง จะช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิตของคุณ และการที่ได้ไปในที่แปลกใหม่ และพบปะผู้คนมากมาย จะทำให้คุณเห็นแง่มุมใหม่ ๆ ในชีวิต และยังช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าในชีวิตของคุณอีกด้วย

    ในส่วนสุดท้าย 25% จะเก็บไว้สำหรับการออม และอาจใช้ในการลงทุนในอนาคต ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถนำไปใช้เปิดธุรกิจเล็ก ๆ ซึ่ง Li ให้เริ่มจากความเสี่ยงที่น้อย เพราะการผิดพลาดจะทำให้สูญเสียเงินเล็กน้อยเช่นกัน

    และเมื่อคุณเริ่มได้เงินจากธุรกิจของคุณ ประสบการณ์จะทำให้คุณมั่นใจขึ้นในการทำธุรกิจด้วยเช่นกัน

    หาช่องทางทำเงิน

    หากคุณพร้อมที่จะทำให้ความมั่งคั่งของคุณเติบโตด้วยธุรกิจใหม่ ๆ ให้ลองพิจารณาว่าควรจะทำธุรกิจอะไรดี

    หนึ่งในมหาเศรษฐีอินเดีย Nikhil Kamath ใช้เวลาหลายปีในการทดลองไอเดียธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงบริการซักรีด และขายมือถือที่ใช้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามยังคงได้ผลตอบแทนพอใช้

    เขาประสบความสำเร็จหลังจากพบโอกาสในการลงทุนของตลาดค้าปลีก และนั่นทำให้เขาได้เริ่มแพลตฟอร์ม Zerodha ในปี 2010

    Kamath กล่าวว่า: "บ่อยครั้งพวกเราเสียเวลาที่จะหาว่าปัญหาที่พวกเราต้องการจะแก้ไขมันคืออะไร แต่ฉันคิดว่าควรที่จะไปสนใจที่ตัวอุตสาหกรรมมากกว่าและวัฏจักรอุตสาหกรรมในระยะยาวดีกว่าซึ่งมันเป็นสิ่งสำคัญมาก เลือกอุตสากรรมที่จุดเปลี่ยน"

    ลองมองภาพระยะยาว

    จากอีกมุมมองของมหาเศรษฐีนักธุรกิจ Warren Buffet ได้เขียนใน จดหมาย 1996 ถึงผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway ว่าเป้าหมายของการลงทุน คือการซื้อหุ้นในบริษัทที่มั่นคงต่อไปอีก 10 – 20 ปี

    "หากคุณไม่อยากจะเป็นเจ้าของหุ้นนั้นอีกสิบปี แค่จะเข้าซื้อและถืออีกสิบนาทีก็ไม่มีประโยชน์" เขาได้เขียนไว้

    และเมื่อเขาเห็นว่าธุรกิจไหนน่าลงทุน Buffet ไม่เพียงแต่ทุ่มทุน แต่เขาจะเชื่อในบริษัทและถือหุ้นนั้นเป็นระยะยาว ตัวอย่างเช่น เขามีมูลค่าหุ้นใน Coca-Cola กว่าหนึ่งพันดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 1988 และเขาก็ยังถือหุ้นตัวนี้จนถึงทุกวันนี้

    ในการสัมภาษณ์ของเขากับ Squawk Box โดย CNBC เขากล่าวว่า “ไม่มีใครซื้อบริษัท เพียงเพราะเขาคิดว่าจะได้กำไรภายในปีหน้า แต่พวกเขาซื้อเพราะคิดว่าเป็นการลงทุนสำหรับ 10 หรือ 20 ปี”

    ขอเงินจากคนอื่น

    เพื่อให้เงินคุณเติบโต บางครั้งคุณต้องกล้าพอที่จะขอเงินทุนจากคนอื่น

    ผู้กำกับอเมริกันชื่อดังอย่าง Spike Lee ไม่เคยกลัวที่จะขอเงินทุนจากผู้อื่น "เพราะฉันเชื่อในความสามารถของฉัน ความสามารถในการเล่าเรื่อง และผู้คนที่อยู่รอบตัวฉันก็อินกับโปรเจคที่ฉันทำอยู่"

    และยังมีมหาเศรษฐีที่สร้างตัวเองขึ้นมาได้ อย่าง Steve Siebold เขียนในหนังสือของเขาที่ชื่อว่า How Rich People Think ที่บอกว่าคนรวยไม่กลัวที่จะลงทุนเพื่ออนาคตของพวกเขาด้วยการใช้เงินทุนของคนอื่น

    "คนรวยมักจะเตรียมเงินให้พร้อมเสมอ เพราะว่า คนรวยมองหาโอกาสในการลงทุนเสมอ ๆ " Siebold กล่าว

    นำเงินของคุณไปลงทุน

    หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะให้เงินเติบโตคือ การนำเงินไปลงทุน โดย Li และ Buffet ต่างก็เห็นพ้องว่าการจะสร้างเงินได้มหาศาล จะต้องมาจากการลงทุนของพวกเขาเอง

    แล้วคุณควรจะเริ่มที่ไหนดี ? สิ่งแรกตัดสินจากเป้าหมายของคุณ รวมถึงการรับความเสี่ยงของคุณ และจะช่วยให้เข้าใจรูปแบบของการลงทุน ต่อมาเลือกพอร์ตการลงทุนและคอยดูผลการดำเนินงาน การที่คอยวัดผลตอบแทนต่อเนื่องจะทำให้คุณรู้ว่าจะต้องปรับปรุงอะไรบ้าง

    ยังมีแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Share4youที่จะเปิดโอกาสให้คุณเรียนรู้จากนักเทรดคนอื่นที่มีประสบการณ์ แพลตฟอร์มคัดลอกการเทรดนี้จะทำให้นักเทรดมือใหม่สามารถเลือกและคัดลอกการเทรดของนักเทรดที่มีประสบการณ์แล้วโดยอัตโนมัติ

    คุณสามารถหาโปรไฟล์ของนักเทรดต่าง ๆ บน Share4youและสามารถดูผลการเทรดย้อนหลังได้ และคุณก็แค่เลือกนักเทรดที่คุณต้องการจะติดตามการเทรดโดยอัตโนมัติ และคอยดูพอร์ตคุณให้เติบโต

    แค่นั่งติดตามดูและก็รอรับรายได้เลย ! แต่ก็อย่าลืมว่าการเทรดฟอเร็กซ์มีความเสี่ยงสูงต่อเงินทุนของคุณ ควรทำความเข้าใจกับข้อกำหนดและเงื่อนไขของนโยบายบริษัทที่นี่

    กระทู้ที่เกี่ยวข้อง